เมนูปิด

FAQ

 

หากนักท่องเที่ยวนำสินค้าที่ซื้อไปนานแล้วมาขอคืนบริษัทฯ จะทราบได้อย่างไรว่านักท่องเที่ยวได้นำคำร้อง ภ.พ.10 ไปขอคืนที่ท่าอากาศยานแล้วหรือยัง

  • กรณีนักท่องเที่ยวได้รับคืนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วคำร้อง ภ.พ.10 และต้นฉบับใบกำกับภาษีเจ้าหน้าที่สรรพากรที่ท่าอากาศยานฯ จะเก็บไว้เป็นหลักฐาน

บริษัทฯ มีหลายสาขา อยู่ในพื้นที่สรรพากรฯ เดียวกัน จะใช้แบบ ภ.พ.10 ร่วมกันได้หรือไม่

  • ไม่ได้ เพราะฐานข้อมูลการจ่ายคำร้อง ภ.พ.10 จะระบุเป็นสาขา ของแต่ละบริษัทฯ

อยากให้ช่วยอธิบายวีธีคิด VAT ด้วยว่าทำไมต้องคูณด้วย 7 หารด้วย 107 เพราะอธิบายแล้วลูกค้าไม่เข้าใจ

  • ในการจัดทำคำร้อง ภ.พ.10 ช่องมูลค่าสินค้าจะรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ไว้ด้วย ซึ่งในใบกำกับภาษีจะระบุว่า "รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว"(Vat Included) ต้องการทราบจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างเดียวว่ามีจำนวนเท่าใด จึงต้องคำนวนโดยนำมูลค่าสินค้าคูณด้วย 7 หารด้วย 107

จำเป็นต้องระบุเลขที่หนังสือเดินทางลงในใบกำกับภาษีหรือไม่

  • จำเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะใบกำกับภาษีเต็มรูป หรือใบกำกับภาษีอย่างย่อ ตามที่กฎหมายกำหนด

ต้องพิมพ์เลขที่หนังสือเดินทาง ลงในใบกำกับภาษีอย่างย่อหรือเปล่า

  • จะพิมพ์หรือเขียนก็ได้

นักท่องเที่ยวไม่มีหนังสือเดินทางและ ID CARD ควรจะทำอย่างไร

  • หากเป็นไปได้ให้นักท่องเที่ยวโทรสอบถามเลขที่หนังสือเดินทางกับทางโรงแรม

กรณีขอแจ้งเลิกเป็นผู้ประกอบการขายสินค้าในระบบ VRT สำนักงานใหญ่ต้องนำคำร้อง ภ.พ.10 ที่เหลืออยู่ที่บริษัทฯ คืนกรมสรรพากรได้อย่างไร

  • ส่งคืนที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ด้วยแบบ คท.8 โดยให้แนบสำเนาแบบ คท.9 ฉบับสุดท้าย, บัตร VRT CARD (ถ้ามี) แล้วปลดป้าย "VAT Refund for Tourists

อยากทราบว่าทำไมถึงขอคืนภาษีผ่านบัตรเครดิตประเภท AMEX ไม่ได้

  • บัตรเครดิต AMEX ไม่มีการตกลงร่วมกันกับกรมสรรพากร

นักท่องเที่ยวขอคืนภาษีไม่เกิน 30,000.-บาท ประสงค์ขอคืนเป็นดราฟต์/เครดิต จำเป็นต้องกรอกชื่อและที่อยู่หรือไม่

  • การกรอกข้อมูลในคำร้อง ภ.พ.10 ส่วนของนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องกรอกชื่อ ที่อยู่ให้ครบถ้วนทุกฉบับ เพื่อใช้ในการส่งเอกสารการคืนภาษีให้นักท่องเที่ยว

นักท่องเที่ยวมักสอบถามว่า เขาซื้อเสื้อผ้าและใส่อยู่จะตรวจเช็คอย่างไร

  • ถ้านักท่องเที่ยวสามารถแสดงสินค้าและพิสูจน์ได้ว่าเสื้อที่ใส่เป็นสินค้ารายการเดียวกับที่ระบุในคำร้อง ภ.พ.10 และใบกำกับภาษี ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานศุลกากรในการตรวจ

นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำงานในประเทศไทย เมื่อซื้อสินค้ากลับไปต่างประเทศ จะขอคืนภาษีได้หรือไม่

  • นักท่องเที่ยวที่มีสิทธิขอคืนภาษีฯ ต้องมีคุณสมบัติและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข ที่กฎหมายกำหนดตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว

Luxury Goods คืออะไร

  • Luxury Goods ตามหลักเกณฑ์การคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้นักท่องเที่ยว ได้แก่  อัญมณีที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือนหรือของรูปพรรณ ทองรูปพรรณ นาฬิกา แว่นตา ปากกา โทรศัพท์แบบพกพา หรือสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แบบพกพา กระเป๋าถือ (ไม่รวมถึง กระเป๋าเดินทาง) เข็มขัด ที่มีมูลค่าของสินค้าแต่ละชิ้นตั้งแต่ 40,000 บาทขึ้นไป หรือสินค้าที่สามารถนำติดตัวไปพร้อมกับการเดินทางที่มีมูลค่าการซื้อสินค้าต่อชิ้นตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป 

หากซื้อ Luxury Goods มาจะสามารถขอคืนภาษีได้อย่างไร

  • นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าประเภท Luxury Goods ต้องตรวจสินค้าที่สำนักงานศุลกากรและที่สำนักงานคืนภาษีฯ บริเวณด้านในหลังผ่านตม. อีกครั้ง ถึงจะสามารถขอคืนภาษีฯ ได้ ดังนั้นนักท่องเที่ยวจะต้องนำสินค้าประเภท Luxury Goods ติดตัวไปขึ้นเครื่องด้วยเพื่อจะได้แสดงสินค้าให้เจ้าหน้าที่ตรวจอีกครั้ง ณ สำนักงานคืนภาษีฯ

นักท่องเที่ยวกรอกข้อมูลในคำร้อง ภ.พ.10 ส่วนของนักท่องเที่ยวไม่ครบถ้วน เช่น เลขที่หนังสือเดินทาง วัน เดือน ปี ที่เดินทางออกจากประเทศไทย เป็นต้น นักท่องเที่ยวสามารถกรอกข้อมูลเพิ่มเติมในแบบ ภ.พ.10 ภายหลังที่ได้รับมอบแบบ ภ.พ.10 จากสถานประกอบการแล้ว ไดัหรือไม่

  • การจัดทำคำร้อง ภ.พ.10 จำเป็นต้องกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนทั้งในส่วนของผู้ประกอบการและส่วนของนักท่องเที่ยว ณ สถานประกอบการเนื่องจากผู้ประกอบการต้องจัดเก็บคู่ฉบับไว้ประกอบการลงรายงานด้วย

ถ้าลูกค้าซื้อสินค้าเสร็จ ได้มอบให้คนอื่นมาจัดทำคำร้องภ.พ.10 แทน รวมถึงเซ็นต์ชื่อเอกสารในคำร้อง ภ.พ.10 แทนด้วย ทำได้หรือไม่

  • ไม่ได้ เพราะชื่อผู้ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มต้องตรงกับชื่อผู้ซื้อ เลขที่หนังสือเดินทางในใบกำกับภาษี และการลงลายมือชื่อต้องถูกต้องตรงกับลายมือชื่อในหนังสือเดินทาง(ถ้ามี)

ถ้าเขียน ภ.พ.10 ผิดสามารถแก้ข้อความได้หรือไม่

  • สามารถขีดฆ่าข้อความที่ไม่ใช้หรือเขียนผิดบนคำร้อง ภ.พ.10 ได้ พร้อมเซ็นชี่อกำกับตรงที่มีการแก้ไขด้วย

หากนักท่องเที่ยวเดินทางตอนเช้าวันที่ 4 เมษายน 2566 เวลา 04.00 น. แต่เดินทางไปรอที่สนามบินตั้งแต่คืนวันที่ 3 เมษายน 2566 นักท่องเที่ยวสามารถนำสินค้าไปให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจและดำเนินการขอคืนภาษีในคืนวันที่ 3 เมษายน 2566 ได้หรือไม่

  • ไม่ได้ นักท่องเที่ยวต้องผ่านการตรวจสินค้าและประทับตราจากเจ้าหน้าที่ศุลกากร ณ วันที่เดินทางออกเท่านั้น ดังนั้น หากนักท่องเที่ยวเดินทางวันที่ 4 เมษายน 2566 เวลา 04.00 น. นักท่องเที่ยวต้องตรวจสินค้าในวันที่ 4 เมษายน 2566 เท่านั้น

สินค้าทุกชิ้นที่นักท่องเที่ยวซื้อต้องแสดงให้สรรพากรดูหรือไม่นอกเหนือจากสินค้า 10 ประเภท (LUXURY GOODS)

  • กรณีซื้อสินค้าราคาแพง ที่กรมสรรพากรกำหนด 10 ชนิด ได้แก่ อัญมณีที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือน หรือของรูปพรรณ ทองรูปพรรณ นาฬิกา แว่นตา ปากกา โทรศัพท์แบบพกพา กระเป๋า เข็มขัด ที่มีมูลค่าของสินค้าแต่ละชิ้นตั้งแต่ 40,000 บาท หรือสินค้าที่สามารถนำติดตัวไปพร้อมกับ การเดินทางที่มีมูลค่าของสินค้าต่อชิ้น ตั้งแต่ 100,000 บาท ต้องนำผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เข้าไปให้เจ้าพนักงานสรรพากรตรวจและ ประทับตราลงนามกำกับอีกครั้งด้วย

 

ปรับปรุงล่าสุด: 01-12-2023